ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนคงจะวางแผนเตรียมเดินทาง จองที่พักไปเที่ยวกันแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของบ้าน และอยากติดกล้องวงจรปิด วันนี้ช่างเสือจึงอยากมาแนะนำทุกคนถึงสิ่งที่ควรรู้ และวิธีเลือกกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะไปซื้อกันครับ
1. ประเภทของกล้อง
กล้องวงจรปิดในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
Analog Camera เป็นกล้องที่ใช้สายสัญญาณชนิด โคแอลเชียล หรือ ตระกูล RG มาเป็นอุปกรณ์นำสัญญาณ มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถสร้างเป็นระบบเครือข่ายได้ เพราะใช้การเดินสาย 1 กล้องต่อ 1 เส้น สายสัญญาณสามารถถูกคลื่นรบกวนได้ง่ายกว่า ระบบ IP นอกจากนั้นกล้องแบบ Analog Camera ยังมีความคมชัดน้อยกว่าแบบ IP Camera อีกด้วย ข้อดี คือ มีราคาที่ถูกกว่าแบบ IP Camera
IP Camera (Internet Protocol Camera) เป็นเทคโนโลยีกล้องในยุคปัจจุบัน มีข้อดี คือ สามารถรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตได้ ผู้ใช้สามารถดูภาพสดได้จากทุกที่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต มีฟังก์ชั่นต่างๆ มากกว่ากล้อง Analog ข้อเสีย คือ มีราคาสูงกว่าแบบ Analog Camera
ความละเอียดวิดีโอ
กล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นจะมีความละเอียดต่างกันไป เช่น 1 ล้านพิกเซล HD720p, 2 ล้านพิกเซล FullHD1080p ยิ่งกล้องมีความละเอียดมาก ภาพที่ได้ยิ่งมีความคมชัดมากขึ้น มองเห็นรายละเอียดเล็กๆ ได้ดีขึ้น แต่นอกจากตัวเลขความละเอียดแล้ว ความคมชัดของวิดีโอยังขึ้นอยู่กับคุณภาพเลนส์อีกด้วย ดังนั้นเราจึงไม่ควรดูแต่เพียงตัวเลขสเปคเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูภาพตัวอย่างที่ได้จากกล้องตัวนั้นจริงๆ ด้วย
ระบบการส่งสัญญาณ
กล้องวงจรปิดในปัจจุบันมีระบบส่งสัญญาณอยู่ 2 ระบบ คือ
- ส่งสัญญาณผ่านสาย การส่งสัญญาณแบบนี้ข้อดีคือมีความเสถียรสูง แต่มีข้อเสียคือ มีค่าใช้จ่ายในการเดินระบบสูงกว่า มีความยุ่งยากในการติดตั้งมากกว่า เนื่องจากต้องสำรวจพื้นที่และออกแบบวิธีการเดินสายสัญญาณ เหมาะกับงานที่ต้องการความเสถียรสูง หรือมีการติดตั้งกล้องจำนวนตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป
- ส่งสัญญาณไร้สาย การส่งสัญญาณแบบนี้กล้องจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีข้อดีคือ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ ข้อเสียคือ สัญญาณอาจไม่เสถียรเท่าแบบเดินสาย เหมาะกับงานติดกล้องวงจรปิดตามบ้านพักอาศัย คอนโด หรือห้องเช่า มีกล้องจำนวนไม่มาก
2. เครื่องบันทึกภาพและฮาร์ดดิสก์
เครื่องบันทึกภาพ
ควรเลือกให้ตรงกับสเปคและจำนวนของกล้อง เช่นหากใช้กล้องวงจรปิดที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 4 แชแนล ก็ควรใช้เครื่องบันทึกภาพ 2 ล้านพิกเซล 4 แชเนลเช่นกัน
ฮาร์ดดิสก์
คือ หน่วยเก็บข้อมูลในเครื่องบันทึกภาพ เนื่องจากกล้องวงจรปิดมีการอ่านและเขียนไฟล์อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ออกแบบมาสำหรับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ เช่น WD Purple หรือ Seagate Surveillance เนื่องจากฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้มีการออกแบบสำหรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน นอกจากนั้นในด้านของความจำควรเลือกความจุฮาร์ดดิสก์ให้เหมาะสมกับรุ่นกล้องอีกด้วย ยิ่งกล้องมีความละเอียดสูงก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้ความจุสูงตาม และยิ่งต้องการเก็บวิดีโอย้อนหลังนานยิ่งต้องใช้ความจุสูงขึ้นเช่นกัน
3. จุดติดตั้งกล้องวงจรปิด
ในเรื่องของจุดติดตั้งเราสามารถแบ่งย่อยๆ ได้ 3 ข้อ
ขนาดพื้นที่ และจำนวนมุมกล้องที่ต้องใช้
ควรเลือกจำนวนกล้องและความกว้างของเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากเป็นมุมอาคารตัว U อาจพิจารณาติดตั้งกล้อง 1 ตัวเลนส์มุมกว้าง หรืออาจใช้กล้อง 2 ตัวเลนส์มุมแคบ เป็นต้น
จุดติดตั้งอยู่ในพื้นที่สว่างหรือมืด
หากจุดติดตั้งอยู่ในที่มืด เราควรเลือกกล้องที่มีระบบ Night Mode ซึ่งปัจจุบันที่ให้เลือก 4 รูปแบบ คือ
- ระบบ Day & Night
สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ในกลางคืนต้องการแสงเล็กน้อยเพื่อให้กล้องสามารถจับภาพได้ ภาพในตอนกลางคืนที่ได้จะเป็นภาพขาวดำ ระบบนี้มีข้อเสียตรงคือไม่สามารถจับภาพได้ในสภาพแสงมืดสนิท - ระบบอินฟราเรด
ระบบนี้กล้องจะใช้แสงจากหลอดอินฟราเรดส่องไปกระทบวัตถุ เพื่อให้กล้องจับภาพได้แม้ในสภาพแสงมืดสนิท ภาพที่ได้จะเป็นภาพสีขาว-ดำ - ระบบ Star Light
ทำงานคล้ายกับระบบ Day & Night แต่พิเศษตรงที่สามารถให้ภาพสีได้ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน - ระบบ Full Color
เป็นระบบที่พัฒนาต่อจากระบบ Star light โดยเพิ่มความสามารถให้การจับภาพสีในตอนกลางคืนได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแสงมืดสนิท เนื่องจากมีการติดหลอกไฟ LED มากับตัวกล้อง เมื่อพื้นที่ไม่มีแสงเลย ตัวหลอดไฟในกล้องจะทำงานทันที กล้องระบบนี้จึงสามารถให้ภาพสีได้ทุกสภาพแสง และจับภาพได้ตลอดทุกสถาณการณ์
จุดติดตั้งเป็นภายในหรือภายนอก
หากเราต้องการติดตั้งกล้องภายนอกอาคาร ก็ควรเลือกกล้องวงจรปิดสำหรับใช้ภายนอกโดยเฉพาะ เนื่องจากการออกแบบให้ทนอากาศร้อน ทนแสงแดด ทนน้ำ ทนฝน รวมถึงทนฝุ่นได้ดีกว่า
4. ฟังก์ชันเสริมของกล้อง
นอกจากเรื่องสเปคของกล้อง เครื่องบันทึก และจุดติดตั้งกล้องแล้ว สิ่งสำคัญในการเลือกกล้องสมัยนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือฟังก์ชันเสริมของกล้อง กล้อง IP Camera ในปัจจุบันมักมีฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ที่ช่วยเอานวยความสะดวกให้เรา เช่น
- ฟังก์ชั่นตรวจจับการเคลื่อนไหว เราสามารถตั้งขนาดของวัตถุ และลักษณะการเคลื่อนไหวได้ เมื่อมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นกล้องจะสามารถรู้ได้และส่งแจ้งเตือนมาที่โทรศัพท์ของเรา นอกจากนั้นเวลาเราดูภาพย้อนหลัง กล้องจะมีไฮไลท์ช่วงที่มีการเคลื่อนไหวเอาไว้ ช่วยให้เราสามารถเลือกดูในช่วงเวลานั้นๆ ได้เลย ช่วยประหยัดเวลาการไล่ดูภาพย้อนหลังได้เป็นอย่างมาก
- ฟังก์ชั่นตรวจจับวัตถุต้องสงสัย กล้องจะสามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัยได้และส่งแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือของเรา
5. ประกันและการบริการหลังการขาย
เนื่องจากกล้องวงจรปิดต้องทำงานตลอดเวลา นอกจากนั้นยังอาจอยู่กลางแจ้งโดนแดด โดนฝน โดนฝุ่น การรับประกันและการบริการหลังการขายจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นมาก ควรเลือกบริษัทที่ไว้วางใจได้ อ่านคำรีวิวก่อนซื้อ แต่หากไม่แน่ใจก็สามารถใช้บริการช่างเสือได้ครับ ชัด จบ ครบ ชัวร์ ไม่เทไม่ทิ้งแน่นอนครับ กดดูโปรช่างเสือคลิกเลย!
ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่เราควรรู้เบื้องต้นเพื่อที่จะสามารถเลือกกล้องวงจรปิดได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับการใช้งานของเรา แต่นอกจาก 5 ข้อนี้แล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีก สามารถอ่านได้จากบทความในเว็บไซต์ช่างเสือเลยครับ
ติดตามช่างเสือได้ที่